Loading...

สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 9 (อุดรธานี)

Environment and Pollution Control Office 9 (Udon Thani)

ขนาดอักษร
เปลี่ยนการแสดงผล C C C
TH EN
climate change

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่จังหวัดเลย เพื่อตรวจติดตามและนำนวัตกรรมน้ำบาดาลมาเป็นต้นแบบในการแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่จังหวัดเลย  เพื่อตรวจติดตามและนำนวัตกรรมน้ำบาดาลมาเป็นต้นแบบในการแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนชาวจังหวัดเลย ให้การต้อนรับ

สำหรับการเดินทางมาจังหวัดเลยของรองนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ เพื่อตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำแล้งในพื้นที่ พร้อมผลักดันนวัตกรรมการพัฒนาน้ำบาดาลให้เป็นต้นแบบการนำไปใช้แก้ไขปัญหาภัยแล้ง และการขาดแคลนน้ำในพื้นที่อื่นๆ ให้ได้ประโยชน์สูงสุด โดยโครงการศึกษาการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้เริ่มดำเนินการนำร่องใน 6 พื้นที่ ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี ลำพูน เพชรบูรณ์ ยโสธร เลย และสระแก้ว นับเป็น 1 ใน 10 นวัตกรรมด้านน้ำบาดาลที่จะสามารถแก้ไขปัญหาภัยแล้งเร่งด่วนได้ทันต่อสถานการณ์ นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมภาคเกษตรกรรมให้สามารถใช้น้ำบาดาลควบคู่ไปกับการใช้ น้ำผิวดินได้อย่างไม่ขาดแคลน เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีน้ำใช้เพื่อการเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปี

โอกาสนึ้ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยแล้งอยู่ในขณะนี้  ได้เร่งสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขและบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำอุปโภคบริโภค หรือน้ำเพื่อการเกษตร เพื่อให้ทุกคนทุกพื้นที่สามารถผ่านพ้นปัญหาภัยแล้งปีนี้ไปได้ และจะต้องคิดค้นเพื่อหาวิธีกักเก็บน้ำฝนให้ได้มากที่สุด เพื่อรองรับกับฤดูแล้งในปีต่อไป

สำหรับโครงการน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ริเริ่มทำในพื้นที่ 6 จังหวัดนั้น นับว่าเป็นนวัตกรรมด้านการพัฒนาน้ำบาดาลของประเทศไทยที่จะเป็นต้นแบบให้นำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และการขาดแคลนน้ำกับพื้นที่อื่นๆ ให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและพื้นที่การเกษตรกร รวมถึงปริมาณน้ำบาดาลให้มีใช้อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี โดยตั้งเป้าหมายดำเนินโครงการอำเภอละ 1 แห่ง

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หลังจากการส่งมอบโครงการให้แก่กลุ่มเกษตรกรไปแล้ว ขอให้ผู้นำท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น นายก อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทำความเข้าใจกับประชาชนและกลุ่มเกษตรกรว่า การใช้น้ำบาดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่แบบนี้ จะต้องช่วยกันดูแลรักษา และเน้นปลูกพืชใช้น้ำน้อย แต่ขายได้ราคาสูง เมื่อเกษตรกรมีรายได้มากขึ้น คุณภาพชีวิตก็จะดีขึ้นตามไปด้วย ปัญหาการย้ายถิ่นฐานไปทำงานที่อื่นก็จะน้อยลง ทำให้ครอบครัวมีความสุขและความอบอุ่นเมื่อได้อยู่ร่วมกันอย่างพร้อมหน้า พร้อมกล่าวแสดงความมั่นใจว่าสถานการณ์ภัยแล้ง และปริมาณน้ำในปีนี้จะดีกว่าปีที่ผ่านมา

แกลเลอรี่